คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดกิจกรรม “ฟันดี มีสุข ครั้งที่ 42” เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงเรียนขอนแก่นพัฒนศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านทันตสุขภาพให้ครู นักเรียน และประชาชน พร้อมออกหน่วยบริการทำฟันฟรี เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างทั่วถึง โดยในครั้งนี้ทางคณะได้นำรถทันตกรรมเคลื่อนที่ออกให้บริการแก่น้องนักเรียนและผู้เข้ารับบริการอีกด้วย
บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง โดยได้รับเกียรติจาก นายอำพร อ้นเถื่อน ผู้อำนวยการโรงเรียนขอนแก่นพัฒนศึกษา กล่าวต้อนรับว่า
“ถือเป็นความปลาบปลื้มใจอย่างยิ่งที่โรงเรียนได้เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมครั้งนี้ ขอขอบคุณคณะทันตแพทยศาสตร์ที่มอบโอกาสดี ๆ ให้แก่เด็กนักเรียนและชุมชนของเรา โรงเรียนพร้อมสนับสนุนทุกด้านเพื่อให้กิจกรรมเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทุกคน”
ด้าน นางสาวนภัสนันท์ สินปรุ นักศึกษาทันตแพทย์ และประธานการจัดโครงการ กล่าวว่า “โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมความรู้ด้านทันตสุขศึกษาอย่างเข้าใจง่าย สร้างนิสัยดูแลสุขภาพช่องปากอย่างยั่งยืน ตลอดจนเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับชุมชน ภายในงานมีนิทรรศการให้ความรู้ด้านทันตสุขภาพ และบริการตรวจรักษา ได้แก่ อุดฟัน ถอนฟัน และเคลือบฟลูออไรด์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จากหน่วยทันตกรรมพระราชทานของคณะทันตแพทยศาสตร์ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนในพื้นที่”
ในพิธียังได้รับเกียรติจาก นายยุทธภูมิ เย็นสบาย นายกเทศมนตรีตำบลสำราญ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยกล่าวว่า “หวังว่าทุกท่านจะใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้และซักถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และนำไปใช้ดูแลสุขภาพช่องปากได้อย่างเหมาะสมในชีวิตประจำวัน”
นอกจากนี้ กิจกรรมยังได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากผู้ปกครองและนักเรียนจำนวนมาก
คุณแสงเดือน ผู้เข้าร่วมงาน กล่าวว่า “ดีใจมากที่โรงเรียนจัดกิจกรรมเช่นนี้ เพราะเด็ก ๆ ได้ความรู้และยังได้ตรวจฟันฟรีด้วย อยากให้มีโครงการแบบนี้อย่างต่อเนื่อง”
ขณะเดียวกัน น้อง ๆ นักเรียนโรงเรียนขอนแก่นพัฒนาศึกษา เล่าถึงความประทับใจว่า “สนุกมากค่ะ ได้เรียนรู้วิธีดูแลฟัน ได้ทำฟันจนฟันสวยขึ้น ดีใจที่ได้ดูแลตัวเองมากขึ้นค่ะ”
กิจกรรม “ฟันดี มีสุข ครั้งที่ 42” นับเป็นหนึ่งในโครงการที่สะท้อนเจตนารมณ์ของคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในการยกระดับสุขภาพช่องปากของประชาชนอย่างยั่งยืน และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา ชุมชน และหน่วยงานท้องถิ่นให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
