มข. ขยายผลนวัตกรรมการศึกษาพิเศษครอบคลุม 79 โรงเรียนทั่วจังหวัดขอนแก่น

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2568 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายการศึกษาพิเศษ จัดโครงการ “การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการขยายผลนวัตกรรมทางการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษทางการศึกษา ระยะที่ 2” โดยมี นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืน รศ.ดร.อิศรา ก้านจักร คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ และ ผศ.ดร.ศราวุธ จักรเป็ง รองคณบดีฝ่ายโรงเรียนสาธิต รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมงาน ในการนี้มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ผู้บริหารและบุคลากรมหาวิทยาลัยขอนแก่น หน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน  ณ ห้องแกรนด์พาวิลเลี่ยน โรงแรมราชาวดี รีสอร์ทแอนด์โฮเทล จังหวัดขอนแก่น 

โครงการนี้เป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการระยะที่ 1 ที่ดำเนินการในปี 2567 ซึ่งได้รับงบสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยมุ่งหวังขยายผลการใช้นวัตกรรมการศึกษาที่ได้รับการจดลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรจำนวน 19 รายการ และ เพื่อพัฒนาศักยภาพเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในจังหวัดขอนแก่น

นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การจัดโครงการครั้งนี้ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ครู ผู้ดูแล ผู้ปฏิบัติงานด้านการดูแลนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษจากหน่วยงานสถานศึกษา และผู้ปกครองจากโรงเรียนเครือข่าย 79 แห่ง “การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมมีความเข้าใจเกี่ยวกับนวัตกรรมทางการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดี ตลอดจนได้แนวทางในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาการศึกษาพิเศษอย่างต่อเนื่อง”

รศ.ดร.อิศรา ก้านจักร คณบดีคณะศึกษาศาสตร์

รศ.ดร.อิศรา ก้านจักร คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ เปิดเผยว่า โครงการนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “คณะศึกษาศาสตร์ชั้นนำระดับประเทศที่มุ่งเน้นนวัตกรรมการศึกษา” ที่มุ่งมั่นเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการศึกษาที่ตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของผู้เรียน โดยเฉพาะในการสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา “เราเชื่อว่าการศึกษาที่มีคุณภาพต้องเป็นสิทธิของเด็กทุกคน ไม่ว่าจะมีความต้องการจำเป็นพิเศษหรือไม่ การพัฒนานวัตกรรมการศึกษาของเราจึงมุ่งเน้นการสร้างระบบการศึกษาที่ครอบคลุมและตอบสนองต่อความหลากหลายของผู้เรียน ผ่าน 4 มิติหลัก ได้แก่ การเข้าถึงและความเป็นธรรมในการศึกษา การพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม และการขยายผลสู่ชุมชนและสังคม”

ผศ.ดร.ศราวุธ จักรเป็ง รองคณบดีฝ่ายโรงเรียนสาธิต รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ด้าน ผศ.ดร.ศราวุธ จักรเป็ง  กล่าวว่า การอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มีกลุ่มเป้าหมายจำนวน 200 คน ประกอบด้วย นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ 40 คน ครู ผู้ดูแล บุคลากรทางการศึกษา นักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาพิเศษ และผู้ปกครอง 140 คน จาก 79 โรงเรียน และคณะกรรมการปฏิบัติงาน 20 คน โดยมีคณะวิทยากรที่เป็นคณาจารย์จากฝ่ายการศึกษาพิเศษ ซึ่งมีผลงานนวัตกรรมทางการศึกษาพิเศษที่ได้รับการจดลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร “กิจกรรมประกอบด้วยการบรรยาย การปฏิบัติการ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยมีการนำเสนอนวัตกรรมและเครื่องมือการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับนักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ เพื่อให้การดำเนินงานด้านการศึกษาพิเศษมีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืน

ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืน กล่าวว่า โครงการนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ. 2568-2571 ยุทธศาสตร์ที่ 4 การบริการวิชาการเพื่อสร้างประโยชน์ให้สังคม และเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยมุ่งเน้นการสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

“โครงการขยายผลนวัตกรรมการศึกษาพิเศษนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานใหญ่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการอย่างยั่งยืน โดยในระยะที่ 1 (ปี 2567) ได้ทดลองใช้นวัตกรรม 4 รายการกับ 34 โรงเรียน ระยะที่ 2 (ปี 2568) ขยายผลใช้นวัตกรรมเพิ่มอีก 7 รายการครอบคลุม 79 โรงเรียนทั่วจังหวัดขอนแก่น ด้วยงบประมาณ 495,240 บาท จากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ สำหรับระยะต่อไป มหาวิทยาลัยวางแผนจะขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อให้เด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษทุกคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและมีโอกาสพัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ”

Scroll to Top