มข. สานสัมพันธ์ศิษย์เก่า สปป.ลาว สุดอบอุ่น ฉลอง 75 ปีความสัมพันธ์ไทย-ลาว มอบรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น พร้อมเดินหน้าตั้งชมรมฯ

        มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เดินหน้าสานสัมพันธ์ศิษย์เก่าในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) จัดงาน “KKU–Laotian Alumni Reunion” อย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสมหามงคลครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรักและความคิดถึง มีศิษย์เก่ากว่า 100 ชีวิตจากหลากหลายรุ่นเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง พร้อมจัดพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่ศิษย์เก่าผู้ประสบผลสำเร็จและภาคภูมิใจ 16 ท่าน และร่วมวางรากฐานการจัดตั้งชมรมศิษย์เก่า มข. ใน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ

        เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 ณ National Agriculture and Forestry Research Institute (NAFRI) : Lao PDR มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้จัดงาน “สานสัมพันธ์ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น สปป.ลาว : ครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย-ลาว” (KKU–Laotian Alumni Reunion: Strengthening Thai-Lao Relations for 75 Years) ขึ้น เพื่อเป็นพื้นที่แห่งความทรงจำ ให้ศิษย์เก่า มข. ชาวลาวได้กลับมาเชื่อมสายใย สานสัมพันธ์ฉันท์พี่น้อง แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์การทำงาน พร้อมกระชับความร่วมมืออันดีงามระหว่างสองแผ่นดินให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

        พิธีเปิดงานได้รับเกียรติสูงสุดจาก รศ.ดร.ลินคำ ดวงสะหวัน รัฐมนตรีกระทรวงกสิกรรมและสิ่งแวดล้อม สปป.ลาว ซึ่งท่านเป็นศิษย์เก่าระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้เกียรติเป็นประธานฝ่าย สปป.ลาว และ รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและนวัตวนิชย์ ซึ่งเป็นผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น รับหน้าที่เป็นประธานฝ่ายไทย

        รศ.ดร.ลินคำ ดวงสะหวัน ได้กล่าวเปิดงานด้วยน้ำเสียงแห่งความผูกพัน โดยสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างลาวและไทยที่มีรากฐานมาอย่างยาวนาน และการครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ คือเครื่องยืนยันถึงมิตรภาพและความร่วมมือที่จะยั่งยืนตลอดไป ท่านได้เน้นย้ำว่า การยกระดับการศึกษา คือหัวใจสำคัญของการพัฒนาชาติ และมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้เข้ามามีบทบาทเป็นกลไกหลักในการสนับสนุนและแบ่งปันองค์ความรู้ระดับสูงมาอย่างต่อเนื่อง “ในนามของคณะผู้นำ สปป.ลาว และบรรดาศิษย์เก่าทุกคน ขอขอบอกขอบใจในความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะด้านการศึกษาและการวิจัย ซึ่งได้สร้างผลดีอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศของพวกเรา” พร้อมกล่าวปิดท้ายด้วยน้ำเสียงแห่งความรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งว่า “ขอบอกขอบใจมหาวิทยาลัยขอนแก่นอย่างสุดอกสุดใจ” สำหรับวิทยาการต่างๆ ที่มอบให้เสมอมา

        ด้าน รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช ผู้แทนอธิการบดี มข. ได้กล่าวต้อนรับศิษย์เก่าทุกคนกลับสู่ครอบครัว มข. ที่แสนอบอุ่น พร้อมย้ำถึงความภาคภูมิใจที่มหาวิทยาลัยมีต่อศิษย์เก่าชาวลาว ซึ่งมีจำนวน มากกว่า 600 คน ที่ล้วนเป็นบัณฑิตคุณภาพและได้กลับไปเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในหลากหลายสาขาอาชีพ “ในวาระที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นกำลังจะครบรอบ 62 ปี เรายังคงระลึกถึงและติดตามความสำเร็จของศิษย์เก่าชาวลาวอยู่เสมอ ความสำเร็จของทุกท่านล้วนเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจที่ประเมินค่ามิได้ของพวกเราชาวมหาวิทยาลัยขอนแก่น” นอกจากนี้ ท่านยังยืนยันว่า มข. พร้อมเป็นบ้านหลังที่สองที่เปิดประตูต้อนรับศิษย์เก่าเสมอ เพื่อกลับมาต่อยอดความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ทันต่อพลวัตของโลก

        สำหรับกิจกรรมภายในงานได้ร้อยเรียงเรื่องราวแห่งความสำเร็จและความผูกพันไว้อย่างน่าประทับใจ เริ่มต้นด้วย พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติแก่ศิษย์เก่าผู้ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียง จำนวน 16 ท่าน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในฐานะต้นแบบที่น่าภาคภูมิใจ จากนั้น รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช ได้นำเสนอข้อมูลเพื่ออัปเดตความก้าวหน้าของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในปัจจุบันและทิศทางในอนาคต

        ไฮไลท์สำคัญคือเวทีเสวนาในหัวข้อ “อดีต ปัจจุบัน และอนาคต : ความร่วมมือลาว-ไทย กับบทบาทของมหาวิทยาลัยขอนแก่น” ซึ่งได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.สุวิทย์ เลาหศิริวงศ์ อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม (ศิษย์เก่า มข. รุ่นที่ 8) ผู้ทรงคุณวุฒิ และตัวแทนศิษย์เก่า มข. ชาวลาว ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองที่สะท้อนให้เห็นบทบาทของบัณฑิต มข. ในฐานะฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างสองประเทศในทุกมิติ

        ในช่วงท้ายของงาน ได้มีการประชุมหารือเพื่อวางแนวทาง การจัดตั้งชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นใน สปป.ลาว อย่างเป็นรูปธรรม โดยมี ผศ.ดร.ศิริศักดิ์ เหล่าจันขาม คณบดีวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น และ รศ.ดร.วายุ กาญจนศร รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและสังคมยั่งยืน คณะศึกษาศาสตร์ เป็นผู้นำการกิจกรรมเพื่อสร้างความผูกพันในการรวมตัวของศิษย์เก่าในครั้งนี้ และถือเป็นก้าวแรกที่มั่นคงในการสร้างเครือข่ายศิษย์เก่าให้เข้มแข็งและเป็นระบบต่อไป

        การจัดงานในครั้งนี้ จึงไม่ได้เป็นเพียงการเฉลิมฉลองวาระสำคัญของสองประเทศ แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงสายใยความรักความผูกพันที่ไม่มีวันจางหายระหว่างคณาจารย์และศิษย์เก่าแห่งรั้วมอดินแดง ที่พร้อมจะจับมือกันเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้วัฒนาสถาพรสืบไป

รายนามศิษย์เก่าผู้ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ

  1. Dr. Linkham Douangsavanh (ป.เอก คณะเกษตรศาสตร์)

    • รัฐมนตรี กระทรวงกสิกรรมและสิ่งแวดล้อม
  2. Dr. Chanthakhone Boualaphanh (ป.เอก คณะเกษตรศาสตร์)

    • รองรัฐมนตรี กระทรวงกสิกรรมและสิ่งแวดล้อม
  3. Aphone Visathep (ป.โท คณะพยาบาลศาสตร์)

    • รองรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข
  4. Math Sounmala (ป.ตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์)

    • อดีต ผู้ช่วย รมต. กระทรวงคมนาคม โยธาธิการและการขนส่ง
  5. Dr. Chay Bounphanousay (ป.เอก คณะเกษตรศาสตร์)

    • อดีตผู้อำนวยการสถาบัน NAFRI
  6. Dr. Phetmanyseng Xangsayasane (ป.เอก คณะเกษตรศาสตร์)

    • ผู้อำนวยการสถาบัน NAFRI (สถานบัน ค้นคว้า กสิกรรม และ ป่าไม้)
  7. Sykhoun Bounvilay (แม่โขง mekong institute)

    • อดีตเลขาธิการสมาคมมิตรภาพลาว-จีน
  8. Dr. Vongpasith Chanthakhoun (ป.เอก คณะเกษตรศาสตร์)

    • รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุภานุวงศ์
  9. Mr. Somchay Phaignavong (ป.โท คณะมนุษย์)

    • รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุภานุวงศ์
  10. Dr. Naly Khaminsou (ป.เอก เทคนิคการแพทย์)

    • คณบดี คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพลาว
  11. Dr. Anousone Sisoulath (ป.เอก คณะพยาบาลศาสตร์)

    • รองคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพลาว
  12. Dr. Phouvang Sengmuang (ป.เอก คณะแพทย์ศาสตร์)

    • อดีตคณบดี คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพลาว
  13. Dr. Viengsakoun Napasirth (ป.เอก คณะเกษตรศาสตร์)

    • รองหัวหน้าภาควิชาปศุสัตว์และการประมง มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว
  14. Sysomphone Chayyasith (ป.โท คณะวิศวกรรมศาสตร์)

    • ผู้อำนวยการกอง กระทรวงการคลัง
  15. Dr. Phetlasy Souladeth (ป.เอก คณะวิทยาศาสตร์)

    • รองหัวหน้าภาควิชาจัดการป่าไม้ มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว
  16. Mrs. Souvaly Khampui (หลักสูตร มินิ MBA)

    • ประธานสมาคมนักธุรกิจหนุ่มแห่งชาติลาว

Scroll to Top