
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภาคภูมิใจกับความสำเร็จของนักศึกษาแพทย์ และนักศึกษาแพทย์หลักสูตร 2 ปริญญา MDH ที่คว้ารางวัลจากเวทีแข่งขันระดับนานาชาติ ด้วยนวัตกรรมแอปพลิเคชันเกมบำบัดสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาการพูดและการกลืน ในงาน i-CREATE 2025 (International Convention on Rehabilitation Engineering and Assistive Technology) ครั้งที่ 18 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Empowering Life: Human-Centered Innovation in Health, Wellness, Aging, and Abilities” จัดโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ทีมนักศึกษา ประกอบด้วย นศพ.ดวงหทัย อินทรธิราช (นศพ. โครงการแพทย์ 2 ปริญญา MDH), นศพ.ปวรัตน์ ชวณิชย์ (นศพ. โครงการแพทย์ 2 ปริญญา MDH), นศพ.เมตตา อนุเดชากุล (นศพ. โครงการแพทย์ 2 ปริญญา MDH), นศพ.ปวริศา ศิลาสุวรรณวิทย์ (นศพ. โครงการแพทย์ 2 ปริญญา MDH) และ นศพ.ณัฐชฎา สุริยศรีวรรณ (นศพ.)
การแข่งขันแบ่งออกเป็นระดับชาติ โดยทางทีม โดยผ่านการคัดเลือกจาก 50 ทีม จนได้เป็น 1 ใน 10 ทีมตัวแทนประเทศไทย ที่ได้ไปนำเสนอผลงานในเวที Global Student Innovation Challenge (GSIC) ซึ่งเป็นเวทีสำหรับนักเรียนนักศึกษาโดยเฉพาะ โดยต้องผ่าน 2 รอบการแข่งขัน คือ รอบ Oral Presentation หรือ Pitching ซึ่งมีเวลานำเสนอ 5 นาที รอบ Prototype Demonstration ที่ต้องจัดแสดงบูทและให้กรรมการทดสอบอุปกรณ์จริง และได้รับรางวัล Public’s Choice Award for achievement และ Best Poster Award Design Category for achievement
โดย ทางทีมได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาแอปพลิเคชันนี้จากการสังเกตปัญหาที่แท้จริงของผู้ป่วย ซึ่งปกติเมื่อผู้ป่วยที่มีปัญหาการพูดหรือกลืนยากเมื่อกลับบ้าน จะได้รับแผ่นกระดาษสำหรับฝึกการบ้าน โดยไม่มีสิ่งใดยืนยันว่าการฝึกนั้นถูกต้อง จากการสัมภาษณ์ นักกิจกรรมบำบัด พบว่า หากมีสิ่งกระตุ้นทางสายตาและเสียงที่ช่วยบ่งบอกความถูกต้อง จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจให้ผู้ป่วยได้มาก ทีมนักศึกษาจึงนำแนวคิดจากเกมยอดนิยมบน TikTok ที่ใช้เสียงควบคุมการเล่น มาผสมผสานกับแผนการรักษาทางการแพทย์ สร้างเป็นเกมที่มีกราฟิกน่ารัก มีการประเมินโต้ตอบเพื่อให้ผู้ป่วยได้มีแรงบันดาลใจและสนุกสนานในการทำกายภาพ พร้อมทั้งการเก็บข้อมูลสำหรับทีมแพทย์เพื่อประเมินผลการรักษา

แอปพลิเคชันประกอบด้วย 3 เกมที่ออกแบบเฉพาะทาง ได้แก่ เกม Quack Quack ที่โฟกัสการยืดเสียงให้ยาวและควบคุมความดังของเสียงเป็นเดซิเบล สำหรับผู้ป่วยที่พูดเสียงไม่ต่อเนื่อง เกม Pitch Fly ที่เน้นการปรับความถี่เสียงสูง-ต่ำ สำหรับผู้ป่วยที่พูดเสียงเรียบเหมือนหุ่นยนต์ หรือที่เรียกว่า Monotonous Voice และเกม Shop Shop ที่เน้นการออกเสียงให้ชัดเจน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ไม่สามารถพูดคำได้ชัดเจน เช่น พูดคำว่า “ขนม” เป็น “ขนน” เกมนี้จะเริ่มจากระดับพื้นฐานและค่อยๆ เพิ่มระดับความยากขึ้นเป็นลำดับ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถพูดได้เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
นศพ.ปวรัตน์ ชวณิชย์ กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายหลักของแอปพลิเคชันคือผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บทางสมอง ศีรษะและลำคอ รวมถึงผู้ป่วยโรคพาร์กินสันและโรคหลอดเลือดสมองที่มีปัญหาเรื่องการกลืนและการพูดลำบาก อย่างไรก็ตาม ในอนาคตทีมมีแผนจะขยายการใช้งานไปสู่เด็กที่กำลังอยู่ในช่วงฝึกพูดด้วย สิ่งที่ทำให้แอปพลิเคชันนี้แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นคือ การมี ข้อมูลเปรียบเทียบรายบุคคล (Personal Calibration) ซึ่งเป็นการวัดมาตรฐานเสียงของแต่ละคนเป็นฐานในการตั้งระดับความยากของเกม ทำให้เหมาะสมกับความสามารถในการพูดของผู้ป่วยแต่ละคนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมี Visual Feedback ที่ใช้กล้องตรวจสอบรูปปากขณะพูด และในอนาคตจะมีการพัฒนาตัวการ์ตูนที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อสาธิตการออกเสียงที่ถูกต้องให้ผู้ป่วยเห็นเป็นแบบอย่าง
ด้าน นศพ.ณัฐชฎา สุริยศรีวรรณ กล่าวเสริมว่า “หากมีไอเดียหรือความสนใจอยากทำผลงานวิจัยหรือนวัตกรรม สามารถเริ่มได้เลย คณะแพทยศาสตร์พร้อมสนับสนุนมากๆ เพียงแค่ติดต่ออาจารย์ที่เกี่ยวข้อง ก็จะได้รับความช่วยเหลืออย่างดี แม้ว่าการเรียนในคณะแพทย์จะหนัก แต่การแบ่งเวลามาทำกิจกรรมภายนอกหรือสิ่งที่สนใจ จะเป็นโอกาสที่ดีมาก ช่วยสร้างเครือข่าย ประสบการณ์ และความรู้ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน การออกจาก Comfort Zone และกล้าทำสิ่งใหม่ ๆ จะนำไปสู่การเติบโตและโอกาสที่ดีในอนาคต ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง”
การพัฒนาผลงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากคณะแพทยศาสตร์ ทั้งด้านงบประมาณการพัฒนา อุปกรณ์ และโอกาสในการไปแข่งขันทุกรอบ รวมถึงได้รับทุนสนับสนุนร้อยเปอร์เซ็นต์จากคณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนจากทีมอาจารย์ที่ปรึกษา 3 ท่าน ได้แก่ อาจารย์แพทย์หญิงภัทรา วัฒนพันธุ์ จากสาขาวิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู ที่ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ตั้งแต่การค้นหาปัญหาวิจัย การพาเข้าไปดูในวอร์ด จนเห็นว่าภาวะกลืนยาก (Dysphagia) เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยมาก ทั้งด้านการรับประทานอาหารและสุขภาพจิต ซึ่งเป็นสาขาที่อาจารย์มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ดร.ศุภโชค สอนศิลพงศ์ จากหลักสูตร Medical Data Science ที่ช่วยพัฒนาโปรแกรมและดูแลส่วนเทคนิค และรองศาสตราจารย์ ดร.วันชนะ สืบไวย ที่ช่วยด้านการดำเนินระเบียบการวิจัยและเอกสารต่างๆ
โดยขณะนี้แอปพลิเคชันยังอยู่ในระดับการพัฒนา Prototype และได้เริ่มดำเนินการจดสิทธิบัตรแล้ว โดยผ่านการรับรองจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์แล้ว ทำให้สามารถนำไปทดสอบกับผู้ป่วยจริงได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ทีมกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อปรับปรุง Prototype ให้พร้อมบริการจริงในอนาคตอันใกล้







