เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น. – 12.00 น. สถาบันการสอนวิชาศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยขอนแก่น (General Education Teaching Institute Khon Kaen University – GETI KKU) ได้จัดโครงการเสวนาวิชาการการพลิกโฉมการศึกษาทั่วไปเพื่อขับเคลื่อน GE KKU Nextgen สู่การสร้างบัณฑิตแห่งอนาคต โดยมี ผศ.ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษาและดิจิทัล เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาร่วมงานกว่า 200 คน ณ ห้อง GL315 ชั้น 3 อาคารพจน์ สานสิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
การจัดโครงการในครั้งนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่ 1 การปรับเปลี่ยนการจัดการศึกษา (Education Transformation) และกลยุทธ์ที่ 1 การพัฒนาหลักสูตรสู่กระบวนทัศน์ที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ (Learning paradigm) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ หลักการ และเป้าหมายของ GE KKU Nextgen ตลอดจนรวบรวมข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติสำหรับการพัฒนาและปรับปรุงรายวิชาหมวดศึกษาทั่วไป โดยมีเป้าหมายเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวคิด ความรู้ ประสบการณ์ เกี่ยวกับการจัดการศึกษาทั่วไปที่ส่งเสริมการเป็นบัณฑิตแห่งอนาคต
ผศ.ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษาและดิจิทัล มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า “ในปัจจุบันนักศึกษาต้องมีสองทักษะหลัก คือทักษะวิชาชีพและทักษะทั่วไป เช่นทักษะการสื่อสาร ทักษะการใช้ชีวิต ทักษะการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ทักษะในการพัฒนาวิธีคิดเชิงสร้างสรรค์ และทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ปัจจุบันเราไม่จำเป็นต้องเรียนเฉพาะวิชาชีพในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีทักษะการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อสังคมและสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะเทคโนโลยีและ AI ที่เราหนีไม่พ้น ดังนั้นการสอนวิชาศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงตอบโจทย์การศึกษาในปัจจุบันและส่งเสริมการเป็นบัณฑิตแห่งอนาคต”
นางสาวดารินทร์ วิชัยมล นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยว่า “เห็นด้วยกับการที่จะเปิดให้เลือกเรียนรายวิชา GE ด้วยตนเอง เพราะจะทำให้นักศึกษาสามารถเลือกตามความต้องการและอยากพัฒนาตนเอง และมีความสุขในการเรียนเพิ่มมากขึ้น ก่อนหน้านี้รู้สึกว่าไม่รู้ว่าเรียนไปทำไม เรียนเพราะต้องเรียน แต่ถ้าอนาคตให้เราเลือกเรียนตามที่เราสนใจ จะทำให้เราใช้ประโยชน์และมีประสิทธิผลได้ในอนาคต”
กล่าวว่า “เห็นใจนักศึกษาที่ได้เรียนในสิ่งที่ไม่อยากเรียน หากเราทำแผนหลักสูตรให้ดี คณะจะเป็นคนเลือกวิชาออกมาตามแก่นหลักสูตร นักศึกษาเองจะได้เลือกในสิ่งที่ตรงประเด็น ดังนั้นจะได้ประโยชน์สองส่วน คือคณะจะได้พัฒนาการบริหารหลักสูตร และนักศึกษาก็จะได้เรียนจริงตามความต้องการของตนเอง อยากเห็นตัวชี้วัดออกมาว่านักศึกษาเกิดการพัฒนาในสมรรถนะต่างๆ ทั้งทักษะทั่วไปและทักษะวิชาชีพตามบริบทของเมืองไทย”