คณะผู้บริหาร มข.ร่วมประชุมยุทธศาสตร์ “Phenomic Medicine + AI” หวังผลักดันไทยสู่การแพทย์แม่นยำและสุขภาพอัจฉริยะอย่างยั่งยืน 

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จุฑารพ เพชระบูรณิน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้อำนวยการสถาบันฟีโนมแห่งชาติ หัวหน้าโครงการฝั่งประเทศไทย ร่วมงานประชุมความร่วมมือทางวิชาการระดับนานาชาติ “การใช้ประโยชน์จากการแพทย์ฟีโนมและปัญญาประดิษฐ์เพื่อยกระดับสุขภาพอัจฉริยะ” โดยมี ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธาน กสว. เป็นประธานในพิธี ณ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ

งานประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นกลไกเชิงยุทธศาสตร์ที่สะท้อนถึงทิศทางใหม่ของประเทศไทยในการบูรณาการฟีโนมิกส์ ปัญญาประดิษฐ์ และนโยบายสุขภาพดิจิทัลเข้าสู่ระบบสุขภาพ เพื่อก้าวสู่การแพทย์แม่นยำและสุขภาพอัจฉริยะอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างความร่วมมือระหว่างไทยกับเครือข่ายวิจัยนานาชาติ โดยเฉพาะคณะแพทยศาสตร์ ราชวิทยาลัยลอนดอน (Imperial College London) สหราชอาณาจักร

รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้คือจุดเริ่มต้นของ “สะพานความร่วมมือระดับโลก” ที่เชื่อมโยงไทยกับผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ อันจะนำไปสู่การพัฒนาระบบสุขภาพที่ตอบโจทย์ความท้าทายเชิงโลกาภิวัตน์และภูมิภาคอาเซียน 

“มหาวิทยาลัยขอนแก่นมุ่งมั่นที่จะเป็นแกนหลักสำคัญในการผลักดันประเทศไทยให้ก้าวทันเทคโนโลยีการแพทย์ล้ำสมัย และการประชุมนี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างเครือข่ายทางวิชาการที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศสู่มาตรฐานระดับโลก”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จุฑารพ เพชระบูรณิน สังกัดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันฟีโนมแห่งชาติ หัวหน้าโครงการฝั่งประเทศไทย กล่าวว่า “การประชุมครั้งนี้เป็นทั้งเวทีวิชาการ และยังเป็นพื้นที่สำหรับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง ทั้งในมิติการวิจัย การพัฒนา และการประยุกต์ใช้จริง เพื่อผลักดันการแพทย์ฟีโนมและ AI ไปสู่การยกระดับสุขภาพของประชาชนในไทยอย่างแท้จริงในอนาคตอันใกล้ สถาบันฟีโนมแห่งชาติมีเป้าหมายในการสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและสังคม โดยใช้องค์ความรู้ด้านฟีโนมิกส์และปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือหลักในการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งอนาคต”

ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธาน กสว. กล่าวย้ำว่า การประชุมครั้งนี้เป็น “หมุดหมายแห่งอนาคต” ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การบูรณาการข้อมูลสุขภาพ–วิทยาศาสตร์–คลินิก–นโยบาย เพื่อสร้างระบบสุขภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการประชาชน แต่ยังรวมไปถึงการเป็นโครงสร้างพื้นฐานเชิงความรู้ ที่ต่อยอดไปสู่เศรษฐกิจและสังคม 

“การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านการแพทย์เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ ความร่วมมือระหว่างประเทศในครั้งนี้จะช่วยให้ไทยสามารถเข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย และสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนในระยะยาว”

Assoc. Prof. Dr. Jia Li คณะแพทยศาสตร์ ราชวิทยาลัยลอนดอน (Faculty of Medicine, Imperial College London) หัวหน้าโครงการฝั่งสหราชอาณาจักร กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านฟีโนมิกส์และปัญญาประดิษฐ์สู่ประเทศไทย ดิฉันเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่ความก้าวหน้าเชิงวิชาการและการพัฒนาระบบสุขภาพที่ตอบโจทย์ในประเทศไทยอย่างแน่นอน และต้องขอบคุณการสนับสนุนจาก British Council ที่ทำให้เราได้เริ่มปักหมุดหมายการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพที่สำคัญนี้อย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ระหว่างสถาบันการศึกษาชั้นนำของทั้งสองประเทศจะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างนวัตกรรมด้านการแพทย์และสุขภาพที่มีคุณภาพสูง”

การประชุมครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจาก Ms. Anna Pearson ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืน สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ผู้แทนเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ที่ได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-อังกฤษในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยกล่าวว่า “ความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสหราชอาณาจักรและประเทศไทยที่มีมายาวนานกว่า 170 ปี โดยเฉพาะในมิติด้านการวิจัยและนวัตกรรม การประชุมครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของทั้งสองประเทศในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และองค์ความรู้ มาสร้างระบบสุขภาพที่แข็งแกร่งและสังคมที่ยั่งยืนร่วมกัน”

งานประชุมความร่วมมือทางวิชาการระดับนานาชาติในครั้งนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากบริติช เคานซิล สหราชอาณาจักร และได้รับการสนับสนุนจากผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 170 คน ประกอบด้วย กลุ่มแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มนักวิชาการและนักวิจัย กลุ่มนักเรียนและนักศึกษา ตลอดจนผู้สนใจที่มาจากทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงผู้ประกอบการจากภาคอุตสาหกรรมด้านการแพทย์และสุขภาพจากทั่วประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จอีกขั้นของสถาบันฟีโนมแห่งชาติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับเครือข่ายทางวิชาการทั้งในและต่างประเทศ สำหรับพันธกิจการขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้เกิดการสรรค์สร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการนำไปใช้ประโยชน์จริงในทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ สามารถส่งมอบคุณค่าสู่สังคมได้อย่างยั่งยืน

 

Scroll to Top