คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดโครงการจัดการความรู้ ภายใต้กิจกรรม “ดาว Dent เด่น” เสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน

คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดโครงการจัดการความรู้ (Knowledge Management) ภายใต้กิจกรรม “ดาว Dent เด่น”  หัวข้อ “ดาว Dent เด่น ด้านวิชาการ: สอนสร้างสุข วิจัยสร้างสรรค์ และเรียนรู้สร้างสุข ในวันพุธที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมนิธิภาวี ศรีสุข ชั้น 5 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่

รศ.ดร.ทพญ.วรานุช ปิติพัฒน์  แขนงวิชาทันตสาธารณสุข  ได้แชร์ประสบการณด้านงานวิจัยสร้างสุข และปัจจัยในความสำเร็จ คือ การทำงานให้ใช้ข้อมูลเพื่อนำเสนอความเป็นจริง การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับการถ่ายทอดที่ดี คือการมี Menter ที่ดี และสามารถสร้าง NetWork ในการทำงานในหลาย ๆ ด้านได้ อีกทั้งการย่อมรับความเสี่ยงเพื่อการทำงานที่ท้าทาย ทำให้สามารถทำงานประสบผลสำเร็จได้ โดยยึดหลัก 3P  คือ
1.Passion เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ คือการรักในสิ่งที่ทำ
2.Passion ความมุ่งมั่นอดทนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและการถูกปฏิเสธ
3.People ความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกศิษย์ เพื่อร่วมงานและเครือข่าย
เป้าหมายสูงสุดของชีวิต คือ “อยากแข็งแรง” “ถ้าตนมีอายุยืนยาว ก็อยากจะแข็งแรง และช่วยเหลือตัวเองได้จนวาระสุดท้ายของชีวิต”   Very Simple Think In Life เราจะสวยได้เมื่อเรายิ้ม มองโลกในแง่บวก เคล็ดลับของความสุขคือการทำในสิ่งที่รัก

รศ.ดร.ทพ.จรินทร์ ปภังกรกิจ แขนงวิชาชีววิทยาช่องปาก ได้แชร์ประสบการณด้านสอนสร้างสุข และปัจจัยในความสำเร็จ ด้วยความชอบเป็นอาจารย์  วิชาไหนที่เรียนไม่รู้เรื่อง ที่อาจารย์สอนไม่มีเรื่อง จะเป็นวิชาที่ทำคะแนนได้ดี เพราะเรายิ่งต้องไปอ่านเพิ่ม เรียนด้วยตนเอง และได้ติวเพื่อนในวิชานั้น ทำให้การสอนเพื่อนและเพื่อนเข้าใจจากเรื่องที่ยากทำให้เพื่อนเข้าใจ ทำให้ค้นพบว่าการสอนเรามีความสุขในช่วงที่เรียนเป็นคนชอบทำกิจกรรมทำให้เราได้รู้จักโลกภายนนอกคณะทันตแพทยศาสตร์ ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ทำให้ได้รู้จักเพื่อนคณะอื่น การเป็นนักกิจกรรม มีเพื่อนคือคุณหมอกฤษดา ชวนทำกิจกรรม ซึ่งถือเป็นไอดอล และการเป็นนักกิจกรรมขอคุณหมอกฤษฎา เป็นทันตแพทย์คนแรกที่เป็นผู้จัดการ สสส. และเป็นทันตแพทย์คนแรกที่เป็นผู้อำนวยการไทยทีบีเอส  ปัจจุบันทำงานเครือข่ายการเรียนรู้  ทำให้เรียนรู้การเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ไม่เต็ม 100 เป็นอย่างไร จากการเป็นนักกิจกรรม การทำงานในบทบาทของทันตแพทย์ในช่วงแรก ได้ทำงานร่วมกับทันตาภิบาลและทีมสหวิชาชีพ ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และเพิ่มประสบการณ์  สามารถทำงานร่วมกันข้ามศาสตร์และสร้างเครือข่าย และพบเด็ก ๆ ในพื้นที่  อยากมีร้านเช่าหนังสือในคลินิกผดุงครรภ์ และพบหนังสือที่ทำให้เข้าใจปัญหาสุขภาพของคนไทย ทำให้เปิดมุมมองด้านสุขภาพ  

รศ.ดร.ทพ.จรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่มาเป็นอาจารย์ที่ Oral Bio เป็นสาขาที่ต้องเชื่อมโยงศาสตร์อื่น ๆ ทำให้อาจารย์ในสาขาเปิดรับการทำงานที่มากขึ้น  ได้มาทำงานเครือข่ายโรงเรียนทันตแพทย์สร้างสุข ได้ทำงานกับอาจารย์ผู้ใหญ่หลายท่าน และได้เรียนรู้กับอาจารย์และทันตแพทย์รุ่นน้อง ทำให้เราได้ความรู้มากขึ้น  การทำงานโรงเรียนทันตแพทย์สร้างสุขทำให้เราสร้างสุขให้ตัวเองและสร้างสุขให้ผู้อื่นด้วย   คนๆ เดียวไม่มีมิติเดียว การเป็นอาจารย์ทำให้ทราบถึงทักษะอะไรที่นักเรียนและนักศึกษาควรมี ทัศนคติที่ครูควรปลูกฝังให้เด็ก คือการเขียนข้อความในเอกสารคำสอน  ต้น ชม.จะชวนให้เด็กคิด เพื่อกระตุ้นการคิดอาจารย์ที่ผ่านมาในชีวิตก็เป็นต้นแบบของเรา หากเรารู้สึกแย่และต้องการกำลังใจเราจะนึกถึงท่านเหล่านั้น หลังการประชุมทุกครั้งต้องยกมือถามเพื่อ คอนติบิว สิ่งเหล่านั้น  ในการปัจฉิมนิเทศจะเห็นสายตาและครอบครัวที่ทำให้รู้ว่าเวลาที่เรามองนักศึกษาในชั้นเรียน จะเห็นว่าทุกคนที่เป็นเด็กเหมือน ๆ กัน แต่เวลาเค้าไปอยู่กับครอบครัวเค้าเป็นคนที่พิเศษ หากเรานึกถึงตรงนี้เราจะเข้าใจเค้า

การเป็นอาจารย์คือการเป็นคนที่เข้าใจในเนื้อหาและสามารถถ่ายทอดมายังนักศึกษา ต้องเข้าใจนักศึกษาเข้าใจความเป็นตัวเค้า การเข้าใจในธรรมชาติของเด็ก ว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร หน้าที่เราคือคนคอยสนับสนุนให้เค้าเป็น ไม่ต้องตาดหวังในสิ่งที่เราอยากให้เค้าเป็น  พยายามทำให้ชีวิตคือความเรียบง่าย และสุขภาพดีด้วย  ต้องมีการแสดงพลังเพื่อให้เป็นแบบอย่างเพื่อให้นักศึกษาไม่รู้สึกแย่ เทคนิคคือการนึกถึงครูเก่า   หลักสำคัญของความเป็นครูคือความมีเมตตา   ทำให้นักศึกษามีความสุข  การพัฒนาการสอน การอัดคลิปวิดีโอ  การไม่เร่งรีบกับเค้า เกิดสังควัตถุ 4 (ทาน คือการให้การเสียสละ  ปิยวาจา คือ การพูดจาด้วยถ้อยคำไพเราะอ่อนหวาน จริงใจ อัตถจริยา สมานัตตตา การเป็นผู้มีความสม่ำเสมอ โดยประพฤติตัวให้มีความเสมอต้นเสมอปลาย วางตัวดีต่อกันทำให้สังคมอยู่เป็นสุข  ทำให้ครูกับนักเรียนมีความสุข  นักศึกษาจะมีความสุขคือได้สนุกกับสิ่งที่เรียน เด็กจะสุขจากการได้เรียนรู้ ได้พัฒนา มีคุณค่า  การพัฒนาการประเมิน และการพัฒนาระบบ IT

รศ.ดร.ทพ.จรินทร์ กล่าวในตอนท้ายว่า การที่มีลูกศิษย์ทำให้การเป็นครูมีความหมายขึ้น ทำให้เราได้เรียนรู้, การเป็นศิษย์กับครูคงหยุดไม่ได้ และเราคงเป็นครูเค้าตลอดไป, สิ่งสำคัญคือ “ฉันทะ” มีความสุขในการทำงาน และได้ทำงานที่เรารักก็ยิ่งมีความสุข และความสำเร็จ มีหลายปัจจัย แต่ให้อยู่กับสิ่งปัจจุบัน

และ อ.ทพ.ธนภัทร ถนอมดำรงศักดิ์ แขนงวิชาปริทันตวิทยา ได้แชร์ประสบการณด้านเรียนสร้างสุขและปัจจัยในความสำเร็จ การเรียนจะอยู่ในสายวิทย์ตลอด และถูกปลูกฝังเรียนสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ  ตัดสินใจเลือกเรียนทันตแพทย์ เพราะไม่อยากแพทย์ขึ้นเวรเพราะกลัวผี 

สำหรับตนเองแล้ว เป็นคนชอบทำกิจกรรม  การเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ทำกิจกรรมทุกอย่าง เล่นกีฬาน้องใหม่เกือบทุกอย่าง มีการทำกิจกรรมนันทนาการ การเต้น การออกกำลังกาย  ควบคู่กับการเรียน ผลการเรียนก็อยู่ในระดับดี  หากถามว่าการเรียนมีความสุขหรือไม่ก็จะถามตัวเองว่าสุขกี่โมง  เมื่อมาเรียนที่คณะทันตแพทยศาสตร์ จุดเปลี่ยนในชีวิต การเรียนคณะฯนี้ต้องมีความอดทน เจอวิชา LAB  ที่ต้องทำกับหุ่นจำลอง เริ่มไม่มีความสุขแล้ว ต้องมาทบทวนตัวเอง จะไปต่อได้ป่าว เลือกที่สู้ต่อ อยู่ทำ LAB นอกเวลาทุกวัน ฝึกฝนเยอะขึ้น ค่อย ๆ ดีขึ้นจนขึ้นชั้นคลินิก เริ่มมีความสุขมากขึ้น ใช้หลักจิตวิทยาของความสุข คือ PERMA

P = Positive Emotion  คือ อารมณ์เชิงบวก
E = Engagement  คือ ความผูกพันและการมีส่วนร่วม โดยเฉพาะกับตัวของเราเอง ใช้ชีวิตให้มีชีวิต
R = Relationships คือ ความสัมพันธ์เชิงบวก
M = Meaning คือ  ความหมายในชีวิตของทุกคน
A = Accomplishment/Achievements  คือ ความสำเร็จ/การบรรลุเป้าหมายในชีวิต  (การบรรลุเป้าหมายในหลากหลายมิติ)

การทำตนให้ถึงพร้อมปล่อยวางในผล   อ.ทพ.ธนภัทร กล่าวในที่สุด

การจัดโครงการครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาคณะทันตแพทยศาสตร์ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ และวิสัยทัศน์ของบุคลากร เพื่อการปฏิบัติงานที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ โครงการจึงมุ่งเน้นการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทั้งแบบชัดแจ้ง (explicit knowledge) และแบบฝังลึกในตัวบุคคล (implicit knowledge) ผ่านกระบวนการเรียนรู้ การเสวนา และการถอดบทเรียนจากประสบการณ์จริง อันจะช่วยพัฒนาศักยภาพบุคลากรในทุกสายงาน ทั้งวิชาการ วิชาชีพ และสายสนับสนุน ซึ่งการเรียนรู้้ต้องถูกปลูกฝังลงไปในวิถีีการปฏิบัติิงานขององค์์กร และการเน้นการสร้างองค์์ความรู้้และแบ่งปันความรู้้ทั่วทั้งองค์กร

 

Scroll to Top