เมื่อวันที่ 29-31 พฤษภาคม 2568 มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมและศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา สร้างประวัติศาสตร์ความภาคภูมิใจ โดยคว้ารางวัลเหรียญทองครบทั้ง 4 ผลงานสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรม ในงาน The 36th International Invention, Innovation & Technology Exhibition (ITEX 2025) ณ Kuala Lumpur Convention Center (KLCC) สหพันธรัฐมาเลเซีย โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ พญ.ผิวพรรณ มาลีวงษ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วยคณะนักวิจัยและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมงานดังกล่าว การแสดงศักยภาพที่โดดเด่นครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานการวิจัยระดับโลกของ มข.
ผลงานที่ประสบความสำเร็จทั้ง 4 ผลงานที่ยื่นจดทะเบียนคุ้มครองแล้ว ประกอบด้วย ผลงาน “สูตรปุ๋ยจุลินทรีย์แบบใหม่เพื่อเสริมการเจริญเติบโตของพืช” (The new microbial biofertilizer for plant growth promoting) จากสาขาวิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ โดยทีมวิจัยของรองศาสตราจารย์ ดร.นันทวัน ฤทธิ์เดช และคณะ ที่นำเสนอนวัตกรรมด้านเกษตรอย่างก้าวหน้า
ผลงาน “แผ่นแอนติเจนที่จำเพาะต่อแอนติบอดีในซีรั่มผู้ป่วยโรคโอพิสทอร์คิเอสิส และคลอนอร์คิเอสิส” (Antigen Strip Specific to antibody in opisthorchiasis and clonorchiasis patient serum) จากสาขาวิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โดยทีมวิจัยของศาสตราจารย์ ดร.วันชัย มาลีวงษ์ และคณะ ที่พัฒนาเครื่องมือการแพทย์สำหรับการวินิจฉัยโรคที่สำคัญ ในขณะเดียวกัน ผลงานนวัตกรรมนี้ยังได้รับรางวัล Special Prize จากสมาคมส่งเสริมการประดิษฐ์ของเกาหลี (Korea Invention Promotion Association) อีกด้วย
ผลงาน “การพัฒนาแบบจำลองปัญญาประดิษฐ์การคัดแยกพันธุ์อ้อยด้วยการเรียนรู้เครื่องและการเรียนรู้เชิงลึก” (Development of AI Model for Sugarcane Variety Identification Using Machine Learning and Deep Learning) จากวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ โดยทีมวิจัยของรองศาสตราจารย์ ดร.วรารัตน์ สงค์แป้น และคณะ ที่สร้างสรรค์เทคโนโลยี AI สำหรับภาคเกษตรกรรม
และผลงาน “ชุดทดสอบ lateral flow immunoassay สำหรับการตรวจ Staphylococcal protein A เพื่อการวินิจฉัยเชื้อ Staphylococcus aureus” (Lateral Flow immunoassay test kit for the detection of Staphylococcal protein A to diagnose Staphylococcus aureus) จากคณะเทคนิคการแพทย์ โดยทีมวิจัยของศาสตราจารย์ ดร.อรุณลักษณ์ ลุลิตานนท์ และคณะ ที่นำเสนอเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็วและแม่นยำ
ความสำเร็จครั้งนี้ยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “มหาวิทยาลัยวิจัยและพัฒนาชั้นนำระดับโลก” (A World-Leading Research and Development University) และเป็นการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สำคัญหลายด้าน ทั้งการปรับเปลี่ยนการทำงานวิจัย (Research Transformation) ที่มุ่งวิจัยแก้ปัญหาชุมชนและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม การบริการวิชาการเพื่อสร้างประโยชน์ให้สังคม (Societal Contributions) การนำมหาวิทยาลัยสู่ความเป็นนานาชาติ (Internationalization) และการปรับเปลี่ยนองค์กรเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ซึ่งนอกจากเป็นความภาคภูมิใจในการยกระดับศักยภาพการวิจัยไทยสู่เวทีโลกแล้ว รางวัลดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้นักวิจัยแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับนานาชาติ และต่อยอดผลงานสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม