วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.30-12.00 น. คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยคณะทำงานสหสาขาวิชาชีพโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (PCT Hypertension) จัดงานวันความดันโลหิตสูงโลก ประจำปี 2568 โดยมี รศ.พญ.แพรว โคตรุฉิน อาจารย์แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา เป็นผู้กล่าวรายงาน และ ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน ณ ชั้น 1 อาคารกัลยาณิวัฒนานุสรณ์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
รศ.พญ.แพรว โคตรุฉิน เปิดเผยว่า วันความดันโลหิตสูงโลกซึ่งตรงกับวันที่ 17 พฤษภาคมของทุกปี เริ่มมีการรณรงค์มาตั้งแต่ปี 2548 เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงโรคที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและพบในผู้ป่วยอายุน้อยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะในสังคมปัจจุบันที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและมีอัตราโรคอ้วนเพิ่มขึ้น
“โรคความดันโลหิตสูงถือเป็น ‘ภัยเงียบ’ ที่อันตรายอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้ป่วยมักไม่แสดงอาการ หากไม่ได้รับการตรวจวัดก็จะไม่ทราบว่าเป็นโรค จนกระทั่งเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตเฉียบพลัน” รศ.พญ.แพรว กล่าว พร้อมเน้นย้ำถึงสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงว่า ปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงถึง 1 ใน 3 ของประชากรทั่วโลก ซึ่งปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่กระตุ้นการเกิดโรคนี้ ได้แก่ ความเครียด การไม่ออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ และภาวะน้ำหนักเกิน
ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคความดันโลหิตสูงเนื่องจากไม่ได้รับการตรวจวัด และในกลุ่มที่ได้รับการวินิจฉัยแล้ว มีเพียง 50% ที่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือมีเพียง 20% เท่านั้นที่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้ดี
“หากเปรียบหัวใจเป็นเครื่องปั๊มน้ำ การปล่อยให้ทำงานด้วยแรงดันสูงตลอดเวลาโดยไม่มีการพัก ย่อมส่งผลกระทบต่ออวัยวะสำคัญ ทั้งหลอดเลือด ตา สมอง หัวใจ และไต นำไปสู่โรคแทรกซ้อนร้ายแรง หลายคนเสียชีวิตอย่างฉับพลันจากโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก โดยไม่เคยทราบมาก่อนว่าตนเองมีความดันโลหิตสูง” ศ.นพ.สมศักดิ์ อธิบาย พร้อมแนะนำให้ทุกครัวเรือนมีเครื่องวัดความดันประจำบ้าน ซึ่งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ได้รับการสนับสนุนจากคุณวิโรจน์ ศรีสดใส ผู้บริจาคเครื่องวัดความดันเบื้องต้นให้กับโรงพยาบาลศรีนครินทร์และโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น จำนวน 5,500 เครื่อง
จากประสบการณ์ทางการแพทย์ พบว่ามีผู้ป่วยประมาณ 30-40% ที่เป็นโรคเรื้อรัง รวมทั้งเบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่ไม่ได้รับการรักษา หลายคนไม่มีอาการผิดปกติจึงเข้าใจผิดว่าสุขภาพดี การตรวจวัดความดันเป็นประจำจะช่วยคัดกรองโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ก่อนเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
ภายในงานจัดกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การออกกำลังกายเบาๆ เพื่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด, Art Therapy วาดภาพระบายสีคลายเครียด, การสาธิตวัดความดันอย่างถูกวิธีและการอ่านค่า, การนวดกดจุดผ่อนคลาย, การให้คำปรึกษาสุขภาพเฉพาะบุคคล, การเสวนากับผู้ป่วยตัวอย่าง และกิจกรรมล่าตราปั๊มเยี่ยมชมบูธสุขภาพพร้อมรับรางวัล