จิราพร ประทุมชัย

เมื่อวันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2567 เวลา 13.19 น.  มหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญ ผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2567 โดยมีท่านผู้เกษียณอายุราชการ ผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร ประธานชมรมบุคลากรอาวุโส  และบุคลากร ร่วมงานกว่า 1,000 คน  ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น รองศาสตราจารย์ นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมในงานพิธีบายศรีสู่ขวัญผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2567 ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในวันนี้ เพื่อเป็นการแสดงการขอบพระคุณที่ท่านได้ปฏิบัติราชการสร้างประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยขอนแก่นมาจนครบวาระ และเพื่อแสดงมุทิตาจิตสำนึกในบุญคุณต่อทุกท่าน ซึ่งในปีนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นผู้เกษียณอายุราชการ จำนวน 258 ท่าน โดยเป็นบุคลากรสายวิชาการ จำนวน 59 ท่าน และบุคลากรสายสนับสนุน จำนวน 199 ท่าน “การที่ท่านทำงานมาจนถึงเวลาเกษียณอายุราชการย่อมผ่านประสบการณ์การณ์การ เรียนรู้ พัฒนาทักษะ การทำงานจนเชี่ยวชาญ และได้สร้างผลงานไว้มากมายอย่างต่อเนื่อง การที่ท่านทั้งหลายครบเกษียณอายุ ทุกคนในมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงานต่างรู้สึกเสียดายในความรู้ความสามารถ และรู้สึกขอบคุณ ที่ท่านได้ทุ่มเท แรงกาย แรงใจและสติปัญญาของท่าน ร่วมพัฒนามหาวิทยาลัยของเราในภารกิจทุก […]

วันนี้ (ศุกร์ที่ 13 กันยายน 2567) เวลา 9.00 น. คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ เนื่องในวาระครบรอบ 30 ปี คณะศิลปกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น  โดยได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล  อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น  เป็นประธานเปิดงาน   ทั้งนี้มีผู้บริหาร คณาจารย์ ศิลปิน ศิษย์เก่า นักศึกษา  นักเรียน ร่วมงานกว่า  3,000 คน  ณ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น           รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล  อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า คณะศิลปกรรมศาสตร์ได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัย เกิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ เนื่องในวาระครบรอบ 30 ปี ครั้งนี้ ถือเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ กับ ศิลปินทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและส่งเสริมให้ด้านศิลปกรรมมีคุณภาพ  ทั้งต่อคณะศิลปกรรมศาสตร์  และแก่สังคม ให้ยั่งยืนพัฒนายิ่งขึ้นต่อไป  ผศ.ดร.บุรินทร์ เปล่งดีสกุล  คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยว่า การแสดงนิทรรศการ โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ เนื่องในวาระครบรอบ

เมื่อวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2567 เวลา 16.20 น. ศาสตราจารย์ พญ.ผิวพรรณ มาลีวงษ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการตรวจประเมินและรับรองห้องปฏิบัติการในรูปแบบ Peer Evaluation ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และมหาวิทยาลัยแม่ข่าย 11 แห่ง ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2567 (Thailand Research Expo 2024) โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง ณ เวที Highlight Stage โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการตรวจประเมินและรับรองห้องปฏิบัติการในรูปแบบ Peer Evaluation ครั้งนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานการวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการตรวจประเมินและรับรองห้องปฏิบัติการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ มข. ในการยกระดับมาตรฐานห้องปฏิบัติการ และเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการผลิตบุคลากร เครื่องมือวิทยาศาสตร์ และผลงานวิจัยที่มีคุณค่าต่อสังคมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 เวลา 9.00 น – 16.00 น. มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยฝ่ายกฎหมายและสื่อสารองค์กร  จัดโครงการพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารองค์กรและส่งเสริมภาพลักษณ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567    โดยได้รับเกียรติจากอาจารย์ณัฐสมล ธนกุลรังสฤษดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายกฎหมายและสื่อสารองค์กร เป็นประธานในพิธี   โดยมีนายชุมพร พารา ผู้อำนวยการกองสื่อสารองค์กร กล่าวรายงานโครงการ  ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.อนุชา โสมาบุตร ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการศึกษา เป็นวิทยากร   ภายในงานมีเครือข่ายการสื่อสารองค์กรและส่งเสริมภาพลักษณ์จำนวน 236 คน เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมสิริคุณากร 3 อาคารสิริคุณากร สำนักงานอธิการบดี อาจารย์ณัฐสมล ธนกุลรังสฤษดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายกฎหมายและสื่อสารองค์กร ประธานในพิธี เผยว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายการสื่อสารองค์กรและส่งเสริมภาพลักษณ์ เพื่อส่งเสริมการประสานการทำงานภายในอย่างมีประสิทธิภาพ และยกระดับความเชื่อถือของมหาวิทยาลัย การมีเครือข่ายฯ ที่เข้มแข็งช่วยให้มหาวิทยาลัยสามารถสื่อสารภาพลักษณ์ที่ดีพร้อมกับสร้างความเชื่อถือได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการยอมรับและการได้รับความเชื่อมั่นจากชุมชน ตามยุทธศาสตร์ที่ 10 การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีและการชี้นำสังคม  กลยุทธ์ที่ 2 การสื่อสารภาพลักษณ์และความเชื่อถือของมหาวิทยาลัย แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและชุมชน โดยเรากำหนดแผนการพัฒนาการสื่อสารแบบบูรณาการ ซึ่งเป็นการสื่อสารในทุกรูปแบบและทุกช่องทางให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีความสอดคล้องกัน และอาศัยการทำงานร่วมกับเครือข่ายการสื่อสารองค์กรและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่มีความเข้มแข็งแล้วนั้น จึงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของมหาวิทยาลัยและการพัฒนาอย่างยั่งยืน