เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดงาน “Rice Field Day: การผลิตเมล็ดพันธุ์อินทรีย์ข้าวเหนียวพันธุ์ใหม่ มข.60-1 และ มข.60-2” ณ ศูนย์วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์นาภู ตำบลหนองห้าง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเผยแพร่ผลสำเร็จของงานวิจัยและส่งเสริมการผลิตข้าวเหนียวอินทรีย์สู่ระดับชุมชน
ศาสตราจารย์ ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
นางสาวชนานาถ สกุลสมบัติ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์
พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืน มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรม และ นางสาวชนานาถ สกุลสมบัติ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จิรวัฒน์ สนิทชน อาจารย์และนักวิจัยด้านการปรับปรุงพันธุ์พืช คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ดำเนินโครงการโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จิรวัฒน์ สนิทชน อาจารย์และนักวิจัยด้านการปรับปรุงพันธุ์พืช คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้โครงการ “การส่งเสริมการผลิตข้าวเหนียว มข.60 เชิงพาณิชย์และเพื่อความมั่นคงทางด้านเมล็ดพันธุ์” ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจาก ทุนพัฒนาหน่วยงานวิสาหกิจและส่งเสริมความร่วมมือเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ 2567
จากการวิจัยร่วมกับชุมชนกว่า 8 ปี ทีมวิจัยได้พัฒนาพันธุ์ข้าวเหนียวใหม่ 2 สายพันธุ์ ได้แก่ มข.60-1 (ข้าวเหนียวไม่ไวแสง ต้านทานโรคไหม้และโรคขอบใบแห้ง) และ มข.60-2 (ข้าวเหนียวไวแสง ต้านทานโรคไหม้และทนดินเค็ม) พบว่าทั้งสองพันธุ์ให้ผลผลิตดี แข็งแรง ไม่หักล้มง่าย เหมาะกับสภาพพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การดำเนินงานภายใต้โครงการนี้ ยังช่วยให้ชุมชนมีการรวมกลุ่มผลิตปุ๋ยชีวภาพ ใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ร่วมกัน รวมทั้งพัฒนาระบบตรวจสอบแปลงผลิตข้าวอินทรีย์ เพื่อรักษามาตรฐานและลดต้นทุนการผลิต สะท้อนถึงความยั่งยืนที่เกิดขึ้นจริงภายในชุมชน
กิจกรรม Rice Field Day จึงไม่เพียงเผยแพร่นวัตกรรมทางการเกษตรเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และเกษตรกร ในการพัฒนาและขยายผลพันธุ์ข้าวเหนียวที่ตอบโจทย์พื้นที่ภาคอีสาน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้แก่ SDG 2 ขจัดความหิวโหยและส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน, SDG 12 การผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน, และSDG 17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน