เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2568 มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืน พร้อมด้วยนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมการเสวนาในหัวข้อ “การสร้างการตระหนักรู้ให้กับประชาชนเพื่อป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี” โดยจัดขึ้นภายในงาน อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ วิจัย และนวัตกรรม (อววน.) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยพลังสหวิทยาการ ณ ห้องประชุม MR202 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
การเสวนาในครั้งนี้จัดโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ ศูนย์กลางด้านความรู้เกี่ยวกับการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมของโรคมะเร็งท่อน้ำดี โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการเสวนา
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
ประเด็นการเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ ในการสร้างการตระหนักรู้ให้กับประชาชนเพื่อป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีมีหัวข้อการเสวนา ในประเด็นต่างๆที่น่าสนใจ ดังนี้
“รับประทานอาหารอย่างไรให้ปลอดจากพยาธิใบไม้ตับ” โดย ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
“แผนมุ่งเป้าประเทศไทยปลอดโรคพยาธิใบไม้ตับ ไม่ตายจากมะเร็งท่อน้ำดี” โดย รศ.ดร.วัชรินทร์ ลอยลม รักษาการผู้อำนวยการสถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น
“มหกรรมเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชน” โดย ผศ.ดร.ศิริศักดิ์ เหล่าจันขาม คณบดีวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น
“การสื่อสารและประชาสัมพันธ์เชิงรุก” โดย น.ส.ยุวลักษณ์ เหมะวิบูลย์ หัวหน้ากลุ่มงานสื่อสารสังคม สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
“ระบบสุขาภิบาลเพื่อสิ่งแวดล้อมปลอดพยาธิใบไม้ตับ” โดย ผศ.ดร.ฤทธิรงค์ จังโกฏิ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
“สร้างการตระหนักรู้ให้เด็กและเยาวชนผ่านหลักสูตรภูมิคุ้มกันโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี” โดย รศ.ดร.สัมพันธ์ ถิ่นเวียงทอง คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เพื่อสร้างความตระหนักรู้และเผยแพร่แนวทางป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ผ่านการบูรณาการองค์ความรู้ด้านวิจัย นวัตกรรม การสื่อสารสุขภาพ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายประเทศไทยปลอดโรคอย่างยั่งยืน กิจกรรมยังสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและการเข้าถึงการดูแลสุขภาพของประชาชน ควบคู่กับ SDG 4 การศึกษาที่มีคุณภาพ ผ่านการพัฒนาหลักสูตรและการเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้องแก่เยาวชน รวมถึง SDG 17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่เน้นการทำงานร่วมกันของภาครัฐ มหาวิทยาลัย หน่วยงานด้านสาธารณสุข และภาคสังคม เพื่อสร้างพลังบูรณาการในการป้องกันโรคและสร้างสังคมสุขภาวะอย่างแท้จริง
